วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

    

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง

...................................... ตั้งอยู่เลขที่ ๔๖ หมู่ ๓ ต.อมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี..........

..........ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๙๗ เดิมมีชื่อว่า ”วิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง”(Chombueng Village Institute) โดยก่อตั้งเป็นสถานศึกษาตามแนวคิด "วิทยาลัยหมู่บ้าน"ของประเทศตุรกีมีจุดมุ่งหมายในการก่อตั้ง ๔ ประการคือ
.........๑ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในชนบทที่ต้องการพัฒนา โดยคัดเลือกนักเรียนในท้องถิ่นทุรกันดารเข้าศึกษาเป็นอันดับแรกเมื่อศึกษา สำเร็จแล้วให้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตน
.........๒ เพื่อปลูกฝังนักศึกษาครูให้รักอาชีพครูโดยผ่านการศึกษาเล่าเรียนและฝึกงานหลายแบบ เพื่อนำความรู้ความชำนาญไปลงมือปฏิบัติได้
.........๓ เพื่อให้นักศึกษาครูรู้จักปฏิบัติตนในการเข้าสังคมโดยอยู่ร่วมกันแบบประชาธิปไตยคือการเคารพนับถือกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันมีสติ
.........๔ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในท้องถิ่นใกล้เคียง ในระยะแรกวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึงได้เปิดสอนหลักสูตร ๕ ปี โดยรับนักศึกษาทุนจากถิ่นทุรกันดารจากทั่วประเทศซึ่งสำเร็จชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๗ เข้าเรียนเมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา

วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๑๓
..........กระทรวงศึกษาธิการได้ ประกาศยกฐานะวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึงเป็นวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงและได้มี การรับนักศึกษาทั่วไปที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เข้าเรียนหลักสูตร ๒ ปี เมื่อสำเร็จแล้วได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาอีกส่วนหนึ่งด้วย ในปีเดียวกันนี้วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงยังได้เริ่มเปิดสอนระดับประกาศนีย บัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงโดยรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและ ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาหรือเทียบเท่า เข้าเรียนหลักสูตร ๒ ปี

ปีการศึกษา ๒๕๒๑
..........วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอม บึงได้เริ่มเปิดสอนระดับปริญญาตรีตามหลักสูตรสภาการฝึกหัดครูในระยะแรกได้ เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ๒ ปี โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงหรือเทียบเท่าเข้า เรียนในปีเดียวกันนั้นวิทยาลัยได้เริ่มปิดสอนตามโครงการการศึกษาอบรมครูและ บุคลากรทางการศึกษาประจำการ (อคป) ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกันระหว่างกรมการฝึกหัดครูและหน่วยงานผู้ใช้ครู โดยมุ่งที่จะพัฒนาวิทยฐานะครูให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการอบรมตามโครงการนี้จะได้รับการศึกษา อบรมตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงและหลักสูตรปริญญาตรี ๒ ปี
..........อนึ่ง เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจส่งผลทำให้วิทยาลัยไม่สามารถที่จะรับ นักศึกษาทุนในอัตราวงเงินเท่าเดิม (๒,๕๐๐ บาท/คน/ปี)ได้ ด้วยความเห็นชอบของกรมการฝึกหัดครูจึงได้เลิกรับนักศึกษาทุนในปีการศึกษา ๒๕๒๑ นั่นเอง

ปีการศึกษา ๒๕๒๒
..........วิทยาลัยได้เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายของกรมการฝึกหัดครูและเนื่องจากความต้องการครูระดับนี้น้อยลง

ปีการศึกษา ๒๕๒๓
..........วิทยาลัยได้เริ่มเปิด สอนระดับปริญญาตรีหลักสูตร ๔ ปี ตามหลักสูตรของสภาการฝึกหัดครูโดยรับผู้สำเร็จขั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือ เทียบเท่าเข้าเรียน เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต เช่นเดียวกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั่วไป

ปีการศึกษา ๒๕๒๖
..........วิทยาลัยได้เริ่มเปิด สอนหลักสูตรเทคนิคการอาชีพตามหลักสูตรสภาการฝึกหัดครู พ।ศ. ๒๕๑๙ เพิ่ม พ.ศ. ๒๕๒๕ โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าเรียนในภาคสมทบ เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง อย่างไรก็ตามวิทยาลัยเปิด สอนนักศึกษาภาคสมทบได้เพียงรุ่นเดียวก็มิได้เปิดอีก

ปีการศึกษา ๒๕๒๗
..........วิทยาลัยได้เปิดสอน เทคนิคการอาชีพสำหรับนักศึกษาภาคปกติ ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงวิทยาลัย เปิด สอนหลักสูตรนี้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น

ปีการศึกษา ๒๕๒๘
..........วิทยาลัยได้เริ่มเปิด สอนระดับอนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์และทางศิลปศาสตร์ตามหลักสูตรของสภาการ ฝึกหัดครู พ.ศ.๒๕๒๘ โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าเรียน ๒ ปี เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิอนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์หรืออนุปริญญาทาง ศิลปศาสตร์ในปีเดียวกันนี้วิทยาลัยได้ปฏิบัติตามนโยบายของกรมการฝึกหัดครู คืองดรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงและงfสอนตามโครงการ อคป।และได้เริ่มเปิดสอนตามโครงการการจัดการศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ (กศ.ป.)

ปีการศึกษา ๒๕๓๐
...........วิทยาลัยได้ขยายการเปิดสอนสาขาวิชาการอื่นจากระดับอนุปริญญาไปจนถึงระดับปริญญาตรี สำหรับสายวิชาชีพครูก็ยังคงเปิดสอนตามปกติ

ปีการศึกษา ๒๕๓๑ - ๒๕๓๔
..........วิทยาลัยได้ปฏิบัติ ตามนโยบายของกรมการฝึกหัดครู เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศคือการลดปริมาณการผลิตบัณฑิตระดับ ปริญญาสายวิชาชีพครูลงและเพิ่มปริมาณการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาและนักศึกษา ระดับอนุปริญญาสาขาวิชาการอื่นให้มากขึ้นในหลายๆสาขาวิชา พ.ศ.๒๕๒๘ วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงได้รวมกลุ่มกับวิทยาลัยครูภาคตะวันตก ๔ แห่งได้แก่ วิทยาลัยครูเพชรบุรี วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง วิทยาลัยครูกาญจนบุรี วิทยาลัยครูนครปฐมและเรียกการรวมตัวครั้งนี้ว่า "สหวิทยาลัยทวารวดี" ปีการศึกษา ๒๕๓๐ วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงได้เปิดสอนนักศึกษาโครงการคุรุทายาทซึ่งเป็น โครงการร่วมระหว่างสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติกับกรมการฝึกหัดครู ให้เรียนในระดับปริญญาตรี โปรแกรมวิชาการศึกษาปฐมวัยและโปรแกรมวิชาการประถมศึกษา ต่อมาในปีการศึกษา ๒๕๒๔ กรมสามัญได้เข้าร่วมโครงการนี้วิทยาลัยได้รับการคัดเลือกให้สอนนักศึกษาคุรุ ทายาทสายมัธยมศึกษา โปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์ เกษตรศาสตร์และอุตสาหกรรมศิลป์ (สาขาก่อสร้างและอิเล็คทรอนิกส์)

ปีการศึกษา ๒๕๓๔
.........ได้เปิดสอนนักศึกษาคุรุ ฑายาทสายประถมศึกษาโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและสายมัธยมศึกษาโปรแกรม วิชาดนตรีการผลิตบัณฑิตในช่วงปี ๒๕๓๕ - ๒๕๓๙ ได้วางแผนให้สอดคล้องกับนโยบายในแผนการพัฒนาการศึกษาระยะที่ ๗ ในกรอบและทิศทางของกรมการฝึกหัดครูที่เน้นให้วิทยาลัยครูเป็นสถาบันอุดม ศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดยผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาการศึกษาสาขาวิชาศิลปศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นสัดส่วน ๔๐: ๓๐:๓๐ ตามลำดับ.
.........เนื่องจากปัจจุบัน วิทยาลัยครูเป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยผลิตบัณฑิตในสาขาต่างๆ ได้แก่ครุศาสตร์บัณฑิต วิทยาศาสตร์บัณฑิตและศิลปศาสตร์บัณฑิต แต่บุคคลทั่วไปยังเข้าใจผิดว่าที่จบจากวิทยาลัยครูต้องประกอบอาชีพครูเท่า นั้นทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในสาขาอื่น ขาดโอกาสในการหางานทำและในบางครั้งเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า “วิทยาลัยครู” มิได้เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องและเกิดประโยชน์แก่ นักศึกษา กระทรวงศึกษาธิการได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “สถาบันราชภัฏ” แก่วิทยาลัยครูเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ และ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๓๗ สภาผู้แทนราษฎร์ได้ให้ความเห็นชอบร่าง พร.บ. สถาบันราชภัฏและวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๓๗ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๓๘ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฎีกาโดยนายชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการและมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๓๘

ปีการศึกษา ๒๕๓๙ และ ๒๕๔๐
.........สภาประจำสถาบันราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรในท้องถิ่นได้ร่วมกันร่างคำปณิธานของมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็น ปรัชญาและแนวทางในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยปีการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๒
.........อาจารย์และข้าราชการ ของมหาวิทยาลัยได้ร่วมกันจัดทำแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้ผ่านความเห็น ชอบจากสภาประจำมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็นแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนา มหาวิทยาลัยในระยะ ๔ ปี (พ.ศ.๒๕๔๓-๒๕๔๖)

ปีการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗
..........พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๗ ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑ ตอนที่พิเศษ ๒๓ ก เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๔๗ มีผลให้สถาบันราชภัฏทุกแห่งเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๗ เป็นต้นไป สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงจึงมีชื่อใหม่เป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ตามพระราชบัญญัตินั้นเป็นต้นมา